เครื่องพิมพ์ 3 มิติ สร้างความท้าทายในการพัฒนาการออกเเบบ

การใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิตินับว่ามีส่วนช่วยให้การใช้งานการพิมพ์ต่างๆนั้น มีความน่าสนใจและสร้างผลงานที่มีคุณภาพ โดยเครื่องพิมพ์ 3 มิตินั้นเป็นปัจจัยที่ผู้ใช้งานส่วนใหญ่เลือกใช้ ข้อได้เปรียบของเครื่องพิมพ์งาน 3 มิตินั้น คือมีประสิทธิภาพการใช้งานขั้นสูงที่ช่วยให้การใช้งานเป็นไปได้อย่างเหมาะสมกับเทคโนโลยีในปัจจุบัน ผู้ที่คุ้นเคยเกี่ยวกับการใช้งานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์นั้นสามารถที่จะใช้งานได้อย่างสะดวกสบายรวดเร็ว เนื่องจากเครื่องพิมพ์ 3 มิตินั้นสามารถต่อเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ PC โดยสามารถอาศัยการออกเเบบและการป้อนข้อมูลได้โดยตรง จึงนับเป็นความโดดเด่นพิเศษของเครื่องพิมพ์ 3 มิติที่ทุกคนนั้นไว้วางใจ

เครื่องพิมพ์ 3 มิตินอกจากนี้ประสิทธิภาพการใช้งานของเครื่องพิมพ์ 3 มิติยังให้ผลงานที่มีความเสมือนจริง สวยงามและสามารถใช้เป็นต้นเเบบของการประกอบเครื่องใช้ที่มีประสิทธิภาพเเละเทคโนโลยีขั้นสูงในอนาคตได้ การใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติยังเป็นการสร้างความท้าทายในการพัฒนาการออกเเบบไม่ว่าจะเป็น ทางด้านวิศวกรรม ทางด้านสุขภาพการแพทย์ หรือการส่งออกต่างๆมีการเดินหน้าพัฒนาก้าวไปอย่างไม่หยุดยั้ง รวมทั้งเป็นการประเมินความเป็นไปได้ในการใช้งานขั้นต้นเพื่อสร้างความสะดวกในการใช้งานและการลงทุนเพื่อความคุ้มค่าการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นงานขนาดเล็กขนาดใหญ่ หรือการ presentation งานระดับโลก เครื่องพิมพ์ 3 มิติก็ไม่ทำให้ผิดหวัง และเป็นที่ยอมรับในการใช้งานอย่างเเพร่หลาย

เเต่ในอีกด้านหนึ่งเกี่ยวกับเครื่องพิมพ์ 3 มิติ เนื่องจากการผลิตเทคโนโลยีเครื่องพิมพ์ 3 มิติยังต้องใช้อุปกรณ์ที่มีคุณภาพเเละมีประสิทธิภาพ จึงทำให้เครื่องพิมพ์ 3 มิติที่มีสมรรถภาพที่หลากหลายประเภท มีราคาสูงตามไปด้วย เเต่ก็นับเป็นจุดเริ่มต้นการผลิตที่ดี ที่จะมีการพัฒนาในอนาคตอันใกล้

สกาด้า ตรวจสอบเก็บรวบรวมข้อมูลการผลิตภายในโรงงานอุตสาหกรรม

สกาด้าสกาด้า นั้นย่อมาจากคำว่า Supervisory Control And Data Acquisition เป็นระบบตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลแบบ Real-time ใช้ในการตรวจสอบสถานะตลอดจนถึงควบคุมการทำงานของระบบควบคุมในอุตสาหกรรมและงานวิศวกรรมต่าง ๆ เช่น งานด้านโทรคมนาคมสื่อสาร การประปา การบำบัดน้ำเสีย โทรมาตร การจัดการด้านพลังงาน อุตสาหกรรมการกลั่นน้ำมันและก็าซ อุตสาหกรรมเคมี อุตสาหกรรมประกอบรถยนต์ การขนส่ง กระบวนการนิวเคลียร์ในโรงไฟฟ้าเป็นต้น ตัวอย่างการใช้งานเช่นใช้ สกาด้า ตรวจสอบข้อมูลเช่นการรั่วไหลของของเหลวที่เกิดขึ้นในท่อขนส่งจากตัวตรวจจับแล้วส่งสัญญาณแจ้งเตือนให้พนักงานทราบ โดยส่งข้อมูลสู่ส่วนกลางของระบบ สกาด้า เป็นต้น นอกจากนั้น สกาด้า อาจทำหน้าที่คำนวนและประมวลผลข้อมูลที่ได้จากฮาร์ดแวร์ต่าง ๆ เช่น พีแอลซี , Controller, DCS, RTU แล้วแสดงข้อมูลทางหน้าจอ หรือส่งสัญญาณควบคุมฮาร์ดแวร์ดังกล่าว เช่นหากอุณหภูมิของอุปกรณ์สูงเกินพิกัด ให้ทำการปิดอุปกรณ์นั้นเป็นต้น โดยสั่งงานผ่าน พีแอลซี หรือ Controller ที่ติดต่ออยู่ ทั้งนี้ สกาด้า สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลที่ได้จากระบบควบคุมทั้งหมดไว้ในฐานข้อมูลเพื่อให้พนักงานหรือโปรแกรมอื่น ๆ สามารถนำไปใช้งานได้ สกาด้า นั้นเข้าไปมีส่วนในงานควบคุมทั้งเล็กและใหญ่ที่ต้องการแสดงผล แลกเปลี่ยนข้อมูล หรือควบคุมระบบต่าง ๆ จากส่วนกลาง เพื่อการทำงานของระบบรวมที่สัมพันธ์กัน มองเห็นภาพรวมได้อย่างชัดเจนและมีความรวดเร็วต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ระบบ สกาด้า ในปัจจุบันมีความสามารถในการสื่อสาร ควบคุม และประมวลผลข้อมูลจาก I/O ของอุปกรณ์เช่น พีแอลซี, DCS, RTU ได้ถึงระดับที่เกินหนึ่งแสน I/O แล้ว และได้รับการพัฒนาให้มีความสามารถรองรับความต้องการใหม่ ๆ ของผู้ใช้งานอย่างต่อเนื่องตลอดมา

สกาด้า สามารถลดความขัดขจ้องในกระบวนการอุตสาหกรรม/วิศวกรรมได้เนื่องจากผู้ใช้รับทราบเหตุการณ์และแก้ไขได้ทันท่วงที ทำให้ช่วยลด Down Time ช่วยให้การทำงานหรือการผลิตมีความต่อเนื่องซึ่งส่งผลต่อศักยภาพการผลิต นอกจากนี้ยังสรุปปัญหทาที่เกิดขึ้นพร้อมสภาพแวดล้อม/พารามิเอตร์ต่างๆที่สนใจที่ช่วยวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาได้ และยังเพิ่มศักยภาพการบริหารธุรกิจและอุตสาหกรรมเนื่องจากผู้บริหารสามารถตัดสินใจบนพื้นฐานข้อมูลที่แม่นยำและรวดเร็ว โดยข้อมูลมาจากรายงานที่รวบรวมและสรุปผลด้วยฟีเจอร์ของ สกาด้า ซึ่งมีความเที่ยงตรงและรวดเร็วกว่ามนุษย์ ดังนั้นธุรกิจและอุตสาหกรรมที่ใช้ระบบ สกาด้า จึงมีความได้เปรียบทางธุรกิจมากกว่า

สกาด้า เริ่มใช้งานในคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ระบบปฏิบัติการ DOS, VMS และ UNIX จนมาถึงระบบปฏิบัติการยุคปัจจุบันซึ่งขยายไคลเอ็นท์ไปถึงคอมพิวเตอร์พกพาและSmart Phone

dell PowerEdge FX เสริมความยืดหยุ่นให้กับระบบโครงสร้างพื้นฐานต่อเนื่อง

dellการทำให้ประเทศไทยก้าวสู่เศรษฐกิจดิจิทัล องค์กรเอ็นเตอร์ไพร์ซ รวมถึงธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก จะต้องลงทุนในโซลูชันที่ผสานการทำงานร่วมกันได้ เพื่อรองรับการใช้แอพพลิเคชันเอ็นเตอร์ไพร์ซแบบเดิม ร่วมกับแนวโน้มเทคโนโลยีล่าสุด เพื่อให้เกิดข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน ทั้งนี้โซลูชันพร้อมสรรพสำหรับอนาคตของเดลล์ ช่วยให้องค์กรธุรกิจในประเทศไทยสามารถดำเนินธุรกิจได้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยให้ระบบไอทีทำงานได้อย่างยืดหยุ่น รวดเร็ว ทั้งเรื่องการควบรวมการทำงาน dell กำหนดการทำงานตามซอฟต์แวร์ และใช้แอพพลิเคชันได้อย่างเหมาะสม

dell ผสานรวมทั้งความหนาแน่น และความมีประสิทธิภาพของเบลด เซิร์ฟเวอร์ ด้วยความเรียบง่ายและให้ข้อได้เปรียบเรื่องค่าใช้จ่ายสำหรับระบบงานแบบแร็ค จึงช่วยให้ลูกค้าสามารถบริหารจัดการ ขยายระบบและดูแลงบประมาณด้านระบบโครงสร้างพื้นฐานได้ดียิ่งขึ้น ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจทั้งในปัจจุบันและในอนาคตได้เป็นอย่างดี สายผลิตภัณฑ์ dell PowerEdge FX จะรวมโมเดลใหม่เข้ามาสามรุ่นด้วยกัน เพื่อให้ทางเลือกหลากหลายยิ่งขึ้นสำหรับองค์กรที่ต้องการเปลี่ยนการใช้งานด้านแอพพลิเคชัน ช่วยให้ลูกค้าสามารถเพิ่มหรือสลับสับเปลี่ยนระบบโครงสร้างไอทีไปสู่เซิร์ฟเวอร์ระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบ 2U ทั้งนี้ระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบใหม่ได้แก่ PowerEdge FD332, PowerEdge FC430 และ PowerEdge FC830

นอกจากนี้ dell ยังได้ประกาศขยายฐานด้วยการเปิดตัว เซิร์ฟเวอร์ PowerEdge รุ่นที่ 13 รุ่นใหม่ ได้แก่ PowerEdge R930 ซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์ที่ทรงพลังมากที่สุดของ dell โดยเฉพาะในเรื่องของการออกแบบ เพื่อให้รองรับการใช้แอพพลิเคชันเอ็นเตอร์ไพร์ซได้มากเป็นพิเศษ มีระบบประมวลผลตระกูล Intel Xeon E7-8800/4800 v3 สูงถึง 72 คอร์ มีหน่วยความจำสูงสุดถึง 6TB (96 DIMM) ใส่ฮาร์ดดิสก์ภายในได้ 24 ตัว และรองรับหน่วยเก็บข้อมูลประสิทธิภาพสูง PowerEdge Express Flash NVMe PCIe SSDs ได้ถึง 8 ตัว

โซลูชันที่เปิดตัวใหม่เหล่านี้ เสมือนเป็นพันธสัญญาของ dell ในการมุ่งเน้นให้ความสำคัญเรื่องของนวัตกรรมและความมุ่งมั่นที่มีต่อตลาดเซิร์ฟเวอร์ โดยเดลล์เพิ่งมีการฉลองครบรอบ 20 ปี สำหรับเซิร์ฟเวอร์ PowerEdge ไปเมื่อเร็วๆ นี้ และในวันนี้ ก็ยังคงรักษาสถานะของการเป็นเบอร์สอง ในตลาดเซิร์ฟเวอร์ x86 ทั่วโลก ซึ่งเป็นตลาดที่มีการเติบโตสูงกว่า 600 เปอร์เซ็นต์มาตั้งแต่ปี 1996