เวลาไปเที่ยวตะลอนด้วยตัวเองแบบสัญจรหลายๆ ประเทศ จะให้ลากกระเป๋าเดินทางไปตลอดเวลาบางครั้งก็เหน็ดเหนื่อยเกินควร ในบางคราวก็ควรมีการกำหนดแผนการบริการจัดส่งกระเป๋า (luggage delivery) ข้ามเมืองบ้าง โรงแรมหลากหลายที่มีบริการจัดส่งกระเป๋า (luggage delivery) ไปยังท่าอากาศยานหรือว่าจุดมุ่งหมายอื่นก็อาจจะใช้บริการในโรงแรมได้เลยอย่างสบายๆ แต่ถ้าในกรณีที่โรงแรมที่พักไม่มีบริการจัดส่งกระเป๋า (luggage delivery) หรือว่าเวลาทำการจะปิดไวเกินไปยังเก็บสมบัติของใช้ไม่ทันก็มีทางออกให้ทำได้ด้วยการใช้บริการตลอด 24 ชั่วโมงที่ร้านค้าสะดวกซื้อ
• ไปขอแบบฟอร์มที่ร้านสะดวกซื้อ
โดยปกติ 7Eleven กับ Family Mart จะมีบริการจัดส่งกระเป๋า (luggage delivery) ทว่าเพื่อความชัวร์ว่าที่นี่มีบริการไหม อุตส่าห์แบกหามกระเป๋าไปถึงร้านแล้วเจอว่าสาขาตรงนั้นไม่มีบริการจัดส่งกระเป๋า (luggage delivery) และเพื่อที่จะไม่ให้เป็นการเสียเวลาไปยืนกรอกเอกสารที่เคาน์เตอร์ควรไปขอแบบฟอร์มมาเตรียมการไว้ก่อน
• กรอกรายละเอียดในแบบฟอร์ม ตัวอย่างเช่น
– ที่อยู่อาศัยพร้อมด้วยเบอร์โทรของพื้นที่ที่หมาย หากว่าเป็นโรงแรมที่อยู่ก็ใส่ชื่อและเบอร์ของโรงแรมไปเลย
– รายละเอียดของข้าวของเครื่องใช้ ถ้าหากจะให้จดรายละเอียดทั้งหมดคงจะยาก เขียนเพียงอย่างคร่าวๆ และระบุวันที่ check in ลงไปด้วย
– วันที่ส่งกับวันที่ต้องการให้ของไปถึงโดยนับจากวันที่ส่งกระเป๋าไปไม่เกิน 7 วัน อาจจะเลือกระยะเวลาได้ว่าประสงค์ให้บริการจัดส่งกระเป๋า (luggage delivery) ประมาณระยะเวลาไหน
– พนักงานที่ร้านจะดูตามขนาดกระเป๋า โดยจำกัดขนาดข้าวของเครื่องใช้พร้อมกับน้ำหนักสิ่งของที่จะส่งว่าจะต้องไม่มากเกินเท่าไหน
• ลากจูงกระเป๋าเดินทางไปที่ร้าน
ลากกระเป๋าจากบ้านพักอาศัยเดินไปที่ร้านพร้อมทั้งยื่นแบบฟอร์มให้พนักงานที่เคาท์เตอร์จ่ายเงินเลย
• จ่ายเงิน
ราคาค่าส่งจะขึ้นกับความจุของกระเป๋าพร้อมกับระยะทางจากจุดบริการจัดส่งกระเป๋า (luggage delivery) ที่ส่งไปถึงที่ตั้งที่หมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ร้านสะดวกซื้อจะคำนวณพร้อมทั้งแจ้งราคาให้ทราบ
• รับสำเนาพร้อมกับใบรับเงิน
หลังจากจ่ายเงินเป็นระเบียบเรียบร้อย จะได้รับสำเนาแบบฟอร์มใบส่งของนี้มาเป็นใบแสดงหลักฐานในแบบฟอร์มจะมีเลขทะเบียนซึ่งอาจจะเช็กได้ในกรณีที่พัสดุมาไม่ถึงหรือว่าก่อเกิดปัญหาใดๆ