ส่วนความยากง่ายของการผ่าตัดแปลงเพศนั้น การเปลี่ยน “จากชายเป็นหญิง” จะง่ายกว่า “จากหญิงเป็นชาย” เห็นได้จากความนิยมในปัจจุบันคนที่แปลงเพศ “จากชายเป็นหญิง” จะมีมากกว่า และกลุ่มนี้เมื่อมาถึงมือหมอนั้น มีความครบถ้วน ทั้งการใช้ชีวิตเป็นผู้หญิง ผมยาว กินฮอร์โมนมานาน และร้อยละ 90 จะมีการเสริมหน้าอกมาแล้วตั้งแต่อายุน้อยๆ เรียกว่าพร้อมที่จะเปลี่ยนเป็นผู้หญิงอย่างสมบูรณ์ครบทั้งสรีระ และเหลือเพียงขั้นตอนการประเมินเพื่อขอใบรับรองจากจิตแพทย์ ก็สามารถเข้ารับการเปลี่ยนเพศได้ทันที
“หญิงข้ามเพศ ค่อนข้างจะมีสังคมของตัวเอง รุ่นพี่มีการแนะนำรุ่นน้องในแง่มุมการใช้ชีวิตต่างๆ เช่นสอนการใช้ฮอร์โมน ใช้กันตั้งแต่เข้าสู่วัยรุ่น ช่วงมัธยมการศึกษาต้อนต้นอายุ 13-14 ปี เรียกได้ว่าผ่านกระบวนการใช้ชีวิตเพศตรงข้ามมานานเกิน 1 ปีแน่นอน ซึ่งเมื่ออายุ 20 ปีจึงเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศ ดังนั้นกลุ่มที่ต้องการผ่าตัดแปลงเพศเพื่อเปลี่ยนเพศชายให้เป็นเพศหญิง ส่วนใหญ่เมื่อเข้ารับการประเมินจากจิตแพทย์ก็ผ่าตัดได้เลย”
ส่วนการเปลี่ยน “จากหญิงเป็นชาย” ส่วนใหญ่แล้วจะนิยมตัดนมกับกินฮอร์โมน และยังไม่ค่อยนิยมแปลงเพศ นั่นอาจจะเป็นเพราะว่า การผ่าตัดยังไม่พัฒนาเท่าการเปลี่ยนจากชายเป็นหญิง ซึ่งการผ่าตัดจากหญิงเป็นชายนั้น แพทย์จะแนะนำให้ดำเนินการเป็น 3 ระยะ เพราะหลังการผ่าตัดอาจจะมีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมา เช่น การรั่วของท่อปัสสาวะ